ต่อเมื่อเราถูกคุกคามด้วยความสูญเสียนั่นแหละ เราจึงมองเห็นความผูกพัน ความยึดมั่นของเรา ช่วงเวลานี้ เป็นสิ่งที่มีค่ามาก เพราะมันเปิดโอกาสให้เราได้เห็นสิ่งที่เราเอาจิตไปยึดไว้ บ่อยครั้งที่เราเฝ้าดูแล้วกลับไม่พบว่า อะไรเป็นกุญแจสำคัญ แต่เพียงการตรวจสอบเช่นนี้ ก็อาจเพียงพอที่จะทำให้ปล่อยวางได้ เมื่อได้พิจารณารายละเอียดทั้งหมด สิ่งนั้นกลับไม่สามารถมีพลังอำนาจเหนือเรา เมื่อเราเริ่มตระหนักรู้ถึงความผูกพันยึดมั่น เราจะสามารถเฝ้าดูอาการของมันได้ ณ เวลานั้น สิ่งสำคัญก็คือการตระหนักรู้ว่าความผูกพันนั้น จะทำให้เกิดความรู้สึกอย่างไร: คนที่อุทิศตนเพื่อธรรมะอย่างแท้จริง จะเห็นความรู้สึกผูกพัน เป็นเพียงความรู้สึก ซึ่งถือว่าเป็นความก้าวหน้าอย่างยิ่ง ผู้สูงอายุชาวศรีลังกาท่านหนึ่ง เคยเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะที่เขาขับรถที่เขาไฝ่ฝันเป็นครั้งแรก เขาหยุดรถที่สัญญาณไฟจราจร แต่คนที่ขับรถตามมา มองไม่เห็นไฟแดง จึงขับชนรถใหม่ของเขาอย่างแรง เขาปีนออกมาโดยไม่เป็นอันตราย แต่เมื่อเห็นว่ารถของเขาถูกชนจนกลายเป็นซาก เขารู้สึกโกรธแค้นอย่างยิ่ง ทันใดนั้น สิ่งที่ได้จากการฝึกฝนและไตร่ตรองเป็นเวลานาน ทำให้เขาคิดได้ง่ายๆว่า ‘เอ้ย! นี่แหละตัวกู ของกู’ เมื่อคิดได้เช่นนั้น พร้อมกับรู้สึกถึงความโกรธที่น่ากลัวในตัวเขา เขาก็เริ่มปล่อยวางและหัวเราะออกมา ความโกรธของเขาหายไปทันที เขาคิดแต่เพียงว่า เขามีเรื่องเล่าให้เพื่อนชาวพุทธฟัง ถึงความปิติยินดีที่เขาได้รับเมื่อปล่อยวางลง
อาตมาขอเสนอธรรมะนี้เพื่อการเรียนรู้และพิจารณา อาจารย์กัลยาโณ ติดตามคำสอนเพิ่มเติมที่แปลเป็นไทยแล้วได้ที่นี่: www.openthesky.co.uk/thai Comments are closed.
|
พระอาจารย์กัลยาโณ Categories
All
|